ปิดฉากไปอย่างสวยงามสำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทย โดยมีสาวงามทั้ง 94 ประเทศ ร่วมชิงชัย ซึ่งสาวงามจากประเทศฟิลิปปินส์ Catriona Gray คว้ามงกุฎไปตามความคาดหมาย ตามด้วยรองมิสยูนิเวิร์ส2018 อันดับ 1 Tamaryn Green สาวงามจากประเทศ South Africa รองมิสยูนิเวิร์ส 2018 อันดับ 2 Sthefany Gutiérrez สาวงามจาก Venezuela ซึ่งเบื้องหลังการจัดงานอีเวนต์ระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ มีนักศึกษาไทยกว่า 30 ชีวิตกับนักจัดอีเวนต์ระดับโลกอย่างเวทีออสก้า และ ซูเปอร์โบว์ล
น.ส.รุ่งฤดี ภู่สว่าง หรือ น้องหยก นักศึกษาชั้นปีที่ 1 น.ส.พิมพ์ลภัส ทองเหลือ หรือ ออมสิน นักศึกษาชั้นปีที่ 2 และ นายบัณฑิต บุญศิริ น้องก้องกี้ นักศึกษาชั้นปีที่ 3คณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ สาขาการจัดการอีเวนต์มหาวิทยาลัยหอการค้า ตัวแทนนักศึกษาไทยร่วมทำงานของทีมต่างประเทศระดับโลก เริ่มเรียนรู้และทำงานตั้งแต่ระบบพนักงานขายบัตรเข้าชมจองตั๋ว รับตั๋วดูแลที่นั่งโซนอัลทิเมท วิว, วีไอพีดูแลของที่ระลึกที่ใช้ ตลอดจนตำแหน่งที่สำคัญอย่าง Co-Production ซึ่งการทำงานในหลายๆ ฝ่ายในงานนี้ทุกอย่างมีการวางแผนงานอย่างมีระบบความเป็นมืออาชีพ สามารถทำทุกอย่างให้ผ่านไปตามระยะเวลาที่กำหนดได้ มีการควบคุมระยะเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างดีจากทุกฝ่าย
นายบัณฑิต เล่าว่า ตนเองทำตำแหน่ง co-production การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ครั้งนี้ โดยเริ่มตั้งแต่ไปเตรียมงานที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเป็นจุดหลักของผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สและทีมงานอยู่ที่นี้กันหมด เราก็ทำตั้งแต่การเตรียมบัตรเข้างานทุกที่นั่งภายในงานโดยต้องคัดแยกออกเป็นที่นั่งพิเศษ ที่นั่งของสปอนเซอร์ ที่นั่งของชาวต่างชาติ และก็ที่นั่งตามราคาบัตรต่างๆ โดยต้องเข้าไปทำตั้งแต่การเตรียมงานในจุดนั้น และการประกวดทั้ง 3 รอบ ได้ทำมาทุกรอบ ในส่วนของหน้างานจะมีการติดต่อรับบัตรเข้างานของคนที่มาร่วมงาน ดูแลเรื่องที่นั่งทุกที่นั่งภายในงาน และการทำงานในส่วนของหน้างานคนอื่นก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเราทำในหน้าที่อะไรเขาก็จะเข้ามาสอบถามเรื่องต่างๆ กับเราทุกอย่างและเกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของคนที่เข้ามาติดต่อสอบถามเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ด้วยความที่เราเป็นคนทำงานด้านอีเวนต์จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับทุกอย่างภายในงานว่าอะไรอยู่ตรงไหน จุดต่างๆ ที่นั่งต่างๆ อยู่ตรงไหน คือ พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องรู้ทุกอย่าง ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นไหวพริบที่ทุกคนที่ทำงานในวงการอีเวนต์ต้องรู้ว่าเราต้องรู้เกี่ยวกับทุกอย่างภายในงานจริงๆ ไม่ใช่แค่หน้าที่หลักของเราเท่านั้น
น.ส.รุ่งฤดี กล่าวว่า ทำตำแหน่งพนักงานขายบัตรเข้าชมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ครั้งนี้ในเรื่องของการที่เราทำงานใหญ่ๆ ครั้งแรกแล้วพอลูกค้าเข้าหาเราเยอะๆ เราได้ใช้ภาษาอังกฤษและภาษาจีนเยอะมากๆ โดยเฉพาะลูกค้าผู้ชมที่มากจากประเทศต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปช่วยรับรองแขกหรือนางงามประเทศต่างๆ ในการให้บริการความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ที่พอช่วยได้ สิ่งสำคัญที่ได้จากการเรียนรู้ คือ จากการที่เราเห็นการทำงานทีมงานต่างประเทศเวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นระหว่างการทำงานทุกคนจะมีวิธีการแก้ปัญหาที่นิ่งมาก ไม่มีความตื่นเต้น ตื่นตระหนก เมื่อมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นทุกครั้ง
น.ส.พิมพ์ลภัส กล่าวว่า งานนี้ทำหน้าที่ดูแลแขกที่นั่งโซนอัลทิเมท วิว, วีไอพี และดูแลของที่ระลึกที่ใช้ในงานประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ครั้งนี้ ที่สำคัญ ได้เรียนรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากในเรื่องของที่ระลึกที่ทางผู้จัดเตรียมไว้ให้ลูกค้าโซนอัลทิเมท วิว เท่านั้น แต่ลูกค้าในโซนวีไอพีต่างประเทศบางรายอยากได้ของที่ระลึกเหมือนกัน เราก็ต้องพยายามที่จะอธิบายอย่างสุภาพมากที่สุด และให้ลูกค้าได้เข้าใจอย่างแท้จริง สุดท้ายลูกค้าก็เข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำของเรา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยในครั้งนี้
นักศึกษาทั้ง 3 คน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้เข้าร่วมจัดงานในครั้งนี้ อีกทั้งความรู้ที่ได้หลังจากที่ได้ร่วมทำงานนี้ก็จะเป็นการทำงานกับชาวต่างชาติ การจัดเวทีในรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น และในด้านของประสบการณ์ใหม่ๆ ที่นักศึกษาไทยจะได้รับและเรียนรู้ปฏิบัติทำงานจริงอย่างมืออาชีพ การพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา เรียนรู้ประสบการณ์วิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานให้กับตัวเองงานระดับโลกอย่างนี้ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการของโลกและเอเชีย