
ในโลกธุรกิจที่ผันผวนและไม่แน่นอน บริบทของโลกเปลี่ยนแปลงไปสู่ความท้าทาย BANI (Brittle, Anxious, Nonlinear, Incomprehensible) ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบาง ความวิตกกังวล การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นเส้นตรง และความซับซ้อนจนยากจะเข้าใจ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้สร้างแรงกดดันให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว People Transformation จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่กลายเป็น “สิ่งจำเป็น” ขององค์กรเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและเตรียมคนในองค์กรให้พร้อมรับมือกับอนาคต เพราะ “คน” คือแกนกลางของการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
BANI คืออะไร กับความท้าทายที่เปลี่ยนเกมขององค์กร
Brittle (เปราะบาง) โครงสร้างองค์กรเดิมที่ไม่ยืดหยุ่นอาจพังลงอย่างง่ายดายเมื่อเจอแรงกดดันจากภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของตลาดหรือเทคโนโลยี |
Anxious (วิตกกังวล) พนักงานในองค์กรอาจรู้สึกไม่มั่นคง เพราะไม่แน่ใจในบทบาทและอนาคตของตัวเองในยุคที่ AI และเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ |
Nonlinear (ไม่เป็นเส้นตรง) การเปลี่ยนแปลงในยุคนี้เกิดขึ้นแบบก้าวกระโดด ยากจะคาดเดาและเตรียมพร้อมด้วยแผนการแบบเดิม |
Incomprehensible (ยากจะเข้าใจ) ความซับซ้อนของข้อมูลและสถานการณ์ทำให้การตัดสินใจในองค์กรยากขึ้น |
ตั้งต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
ความสำเร็จเริ่มต้นจากการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน องค์กรต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า “เราต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร?” และ “เป้าหมายของเราอยู่ที่ไหน?” การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่บอกว่าเราต้องการเติบโต แต่ต้องระบุเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับคน เช่น การสร้างองค์กรที่ทุกคนมีโอกาสพัฒนา หรือการเพิ่มทักษะใหม่ให้พนักงานเพื่อรับมือกับเทคโนโลยี
วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ใช่แค่สิ่งที่สื่อสารออกไป แต่ต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนในองค์กรเข้าใจและรู้สึกมีส่วนร่วม เช่น จัดการประชุม Town Hall เพื่อเล่าถึงเป้าหมายและเส้นทางที่จะไปถึง และใช้การเล่าเรื่อง (Storytelling) เพื่อทำให้พนักงานเห็นภาพชัดเจนและรู้สึกตื่นเต้นไปกับเป้าหมายนั้น
กลยุทธ์ที่นำไปปฏิบัติได้จริง
เมื่อวิสัยทัศน์ชัดเจนแล้ว สิ่งสำคัญคือการแปลงเป้าหมายเหล่านั้นให้กลายเป็นแผนที่จับต้องได้ การวางกลยุทธ์เพื่อ People Transformation ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ว่าองค์กรของคุณอยู่ตรงไหน และต้องไปถึงจุดไหน เริ่มต้นจากการเก็บข้อมูล เช่น ทำแบบสำรวจความต้องการและความคิดเห็นของพนักงาน ว่าพวกเขาต้องการพัฒนาทักษะอะไร หรือมีปัญหาอะไรในการทำงาน หลังจากนั้น แบ่งเป้าหมายเป็นระยะสั้น กลาง และยาว เช่น การพัฒนา “ทักษะดิจิทัลพื้นฐาน” ในระยะสั้น และการสร้าง “ทักษะเฉพาะทาง” ในระยะยาว อย่าลืมว่ากลยุทธ์ที่ดีต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
เทคโนโลยีคือเครื่องมือ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI เป็นตัวช่วยสำคัญในยุคนี้ แต่ต้องจำไว้ว่าเทคโนโลยีไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่เป็น “เครื่องมือ” ที่ช่วยให้กระบวนการ People Transformation มีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มจากการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะกับองค์กร AI เป็นตัวช่วยอย่างดีเยี่ยม อย่าลืมสร้างบรรยากาศที่เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยให้พวกเขาทำงานง่ายขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่
เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากวัฒนธรรมองค์กรไม่รองรับ องค์กรต้องสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานรู้สึกมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ดี เริ่มต้นจากการสร้าง Growth Mindset ในทีม ส่งเสริมให้พนักงานมองว่าความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเรียนรู้ เช่น จัดเวิร์กชอปที่สนับสนุนการลองผิดลองถูก เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็น และสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่ทุกคนรู้สึกว่าความคิดเห็นของพวกเขามีค่า
การให้รางวัลพฤติกรรมที่ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง เช่น การคิดนอกกรอบ หรือการเสนอไอเดียใหม่ จะช่วยให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมและพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมองค์กร
ผู้นำคือหัวใจของการเปลี่ยนแปลง
บทบาทของผู้นำใน People Transformation นั้นสำคัญที่สุด ผู้นำต้องเป็นต้นแบบของการเปลี่ยนแปลง และสื่อสารเป้าหมายอย่างโปร่งใส ผู้นำควรแสดงให้ทีมเห็นถึงความตั้งใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ เช่น เข้าร่วมการฝึกอบรมไปพร้อมกับทีม หรือแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการเปลี่ยนแปลง และอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือการสร้างความไว้วางใจ ผู้นำต้องพร้อมรับฟังความคิดเห็น และเปิดใจปรับปรุงกระบวนการที่ยังไม่สมบูรณ์
เปลี่ยนคน เปลี่ยนอนาคตองค์กร
People Transformation ไม่ใช่โครงการระยะสั้น แต่คือการเดินทางระยะยาวที่ต้องอาศัยทั้งวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่ปฏิบัติได้จริง เทคโนโลยีที่เหมาะสม วัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่น และผู้นำที่พร้อมนำพาทีมไปสู่อนาคตหากองค์กรสามารถเปลี่ยนคนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง องค์กรก็จะสามารถเติบโตและก้าวข้ามความท้าทายไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในยุคที่ทุกอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง
Writer : ดร. อารดา มหามิตร (อ.กลอย) คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย
ผู้อำนวยการหลักสูตร YMBA
อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
สมัครวันนี้เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ และพัฒนาศักยภาพของคุณให้เต็มที่ เพราะบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีหลักสูตรหลากหลายและคณาจารย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมสนับสนุนคุณในทุกย่างก้าวของการเรียนรู้
Line official: @GSUTCC
Tel : 095-367-5512
Email: [email protected]
Facebook : m.me/GSUTCC
เว็บไซต์: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย