เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผศ.ดร.วชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า อาจารย์วิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอาจารย์อุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกันแถลงข่าวผลการสำรวจเรื่อง “สถานภาพแรงงานไทย : กรณีศึกษาผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท” เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 1,259 คน ระหว่างวันที่ 19-25 เม..ย. 2567หลังจากกระทรวงแรงงานปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 400 บาท นำร่อง 10 จังหวัดในธุรกิจโรงแรม และเตรียมทยอยขึ้นค่าแรงในธุรกิจ ทั่วประเทศภายในปี 2567 ส่งผลให้ไทย จะเป็นประเทศที่มีค่าแรงขั้นต่ำ สูงเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน ผลสำรวจพบว่า สถานการณ์แรงงานไทยปี 67 ประชาชน มีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนที่ 344,522 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา และอยากให้ รัฐบาลปรับชึ้นค่าแรงขั้นต่ำ กรณีที่ไม่สามารถปรับเพิ่มค่าแรงได้อย่างที่คาดหวังไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ 65.3 % ขอเพียงให้เพิ่มเท่ากับค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มสูงขึ้น รองลงมาขอให้เพิ่มเท่ากับค่าเดินทาง เพิ่มเท่ากับค่าราคาอาหาร เพิ่มเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และเพิ่มเท่ากับค่าเช่าที่ ด้านผู้ประกอบการ 72.6 % ยังคงเห็นว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ยังไม่มีความเหมาะสม และยังมองว่าค่าจ้างแรงงานที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 370 บาทต่อวัน
Category: PR News
Share This Article