ที่ผ่านมาในรอบหลายปีประเทศไทยต้องประสบภาวะวิกฤตหลากหลายรูปแบบ จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 วิกฤตหนักสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีถือเป็นวิกฤติหนักสุดในรอบ 17 ปี โดยระดับแม่น้ำมูลล้นตลิ่งอยู่ที่ 115.88 ม.รทก. ต่อมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 พบกับภาวะวิกฤตโรคระบาดไวรัสโคโลน่าโควิด – 19 อย่างหนัก ทำให้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม การดำเนินชีวิตของประชาชนในวงกว้าง หลายฝ่ายออกมาช่วยเหลือภาคประชาชนในรูปแบบต่างๆ แต่มีนักศึกษาชมรมอาสาสมัครกู้ชีพUTCC มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังคงออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นภาวะปกติและภาวะวิกฤตก็ตามจนถึงปัจจุบันนี้
นายวีรพัฒน์ อึ้งอร่าม คณะวิทยาลัยผู้ประกอบการ และประธานชมรมอาสาสมัครกู้ชีพUTCC มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เล่าว่า “ผมเป็นอาสาสมัครกู้ภัยได้เดินทางไปช่วยผู้ประสบภัยในนามของอาสาสมัครกู้ภัยประชาชนทั่วไปตลอดเวลา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดอุบลราชธานีในการเข้าพื้นที่น้ำท่วมขนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและขนย้ายหนังสือเรียน ข้อสอบของนักเรียนโรงเรียนบ้านกุดกั่ว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี เขต1 มาถึงตอนนี้เกิดภาวะวิกฤตไวรัสโคโลน่าโควิด – 19 ระบาดอย่างหนักไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ผมในฐานะหน่วยกู้ภัยหน่วนกู้ภัยตอนนี้มีการปรับตัวอย่างมาก ต้องหาอุปกรณ์มาป้องกันตัวเองให้มากกว่าเดิม จากเมื่อก่อนที่มีแค่แว่นตา หน้ากากอนามัยธรรมดา ถุงมือทั่วไป ตอนนี้ก็ต้องหาชุด PPE ระดับC ที่เป็นชุดสำหรับป้องกันไวรัสและสามารถปกป้องทุกส่วนของร่างกายเราไม่ให้สัมผัสกับไวรัสได้ ด้านประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนสามารถโทรแจ้งได้ที่เบอร์ 1669 ,1646 ทั้งสองสายนี้จะเป็นสายด่วนฉุกเฉินมีเจ้าหน้าที่คอยคัดกรองไวรัสโควิด – 19 เบื้องต้นให้กับผู้ที่โทรมาแจ้งผ่านทางโทรศัพท์ ที่สำคัญอยากจะขอความร่วมมือและรบกวนให้ทุกคนที่โทรเข้ามาแจ้งนั้นพูดความจริงทั้งหมด เพราะนอกจากจะเป็นผลดีต่อตัวท่านแล้วยังเป็นผลดีต่อเจ้าหน้าที่ผู้ที่ปฏิบัติงานอีกด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยและบุคลากรทางการแพทย์ปลอดภัยให้ได้มากที่สุด เพราะตอนนี้บุคลากรก็ทำหน้าที่เต็มอัตราส่วนอยู่แล้ว เราช่วยท่าน ท่านก็ต้องช่วยเราก็เลยอยากจะขอความร่วมมือตรงนี้ด้วย”
“ตอนนี้ยังได้เดินทางร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูมอบข้าวกล่องและถุงยังชีพประมาณ 400 ชุด มอบให้กับประชาชนชุมชนซอยเสือใหญ่อุทิศ ชุมชนเลียบคลองลำเจียก นอกจากนี้ยังมีจุดสำนักงานเขตจัดไว้ให้ ได้แก่ บริเวณศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม ถนนราชดำเนิน เป็นต้น สถานการณ์ภาวะโรคระบาดยังไม่สงบลงอยากให้คนไทยทุกคนให้กำลังใจกัน เพราะเราเข้าใจดีว่าบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านเหนื่อยกว่าพวกเราเยอะมาก เพราะบุคลากรทั้งหลายต้องขึ้นเวรประจำตามสถานที่ของตัวเอง และบางท่านอาจจะไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้นจากเดิมหลายเท่า ก็อยากจะที่จะให้กำลังใจและอยากที่จะอยู่เคียงข้างคอยช่วยเหลือกันไปตลอด เพราะก่อนหน้าที่จะเข้ามาเป็นอาสาสมัครกู้ภัยได้คำนึงแล้วระลึกไว้อยู่ในใจเสมอว่า เกิดมาทั้งทีเราต้องทำความดีฝากเอาไว้ ไม่ว่าจะทำด้วยเรื่องอะไรก็ตาม เพราะเราเกิดมาทั้งทีก็อยากจะทำความดีตามที่เราตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรเราก็ยืนยันที่จะยังทำอยู่อย่างต่อเนื่องถ้าเรายังสามารถทำได้ ผมจะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนจนกว่าเราจะทำไม่ไหวไปเอง” ประธานชมรมอาสาสมัครกู้ชีพUTCC มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวทิ้งท้าย