จากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกขณะนี้ ทำให้หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยรณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน ให้ประชาชนทำงานที่บ้าน เลี่ยงการติดต่อที่ไม่เป็นจำเป็น รวมทั้งไปผับ ร้านอาหาร โรงหนังและร้านค้า จำกัดการเดินทางและการชุมนุมขนาดใหญ่ ครอบครัวที่มีสมาชิกแสดงอาการแม้เพียงคนเดียวก็ต้องกักตัวนาน 14 วัน ทำให้ประชาชนจำนวนมากมีเวลาอยู่กับบ้านและครอบครัวอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประกาศนโยบาย Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน เน้นจัดการปัญหาขยะ เสนอแผนขับเคลื่อนทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการขยะพลาสติกและขยะอาหารแบบบูรณาการ เน้นจัดการปัญหาขยะของเหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และภาคการเกษตร ที่สำคัญด้วยตอนนี้หลายครอบครัวทำงานจากที่บ้าน ทำให้มีเวลาอยู่บ้านเพิ่มมากขึ้น นักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงรวมรณรงค์หยุดเชื้อโควิด – 19 อยู่บ้าน พร้อมกับทำความดีร่วมกันจัดเก็บถุงผ้าภายในบ้านที่อาจมีจำนวนมาก เตรียมพร้อมนำมาบริจาคภายหลังสถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นให้กับผู้อื่น สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน
นายคฑาวุธ ศรีบุรินทร์ ประธานคณะกรรมการนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ ปีที่4 ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า “ตอนนี้หลายครอบครัวต้องหยุดอยู่ภายในบ้าน ทำให้มีเวลาจัดเก็บทำความสะอาดบ้าน การเก็บถุงผ้าที่มีจำนวนมากมาแบ่งผู้อื่นใช้ ผมมองว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากกว่าการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดขยะให้กับสิ่งแวดล้อมแล้ว มหาวิทยาลัยของเราได้มีการดำเนินนโยบาย Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างมาก ผมอยากร่วมรณรงค์ผู้ที่ต้องการนำถุงผ้ามาแบ่งปันสามารถนำมาแขวนได้ที่อาคาร 1 , อาคาร 10และอาคาร 24 เพื่อให้ผู้ปกครอง อาจารย์ นักศึกษา ประชาชนทั่วไปสามารถหยิบใช้ได้ตามความเหมาะสม”
“อยากให้ทุกคนเปิดใจยอมรับและเห็นคุณค่าของถุงผ้ามากกว่าถุงพลาสติก และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้โลกของเรานั้นน่าอยู่ขึ้น ลดปริมาณขยะให้กับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าใครมีถุงผ้าจำนวนมากสามารถที่จะนำมาแขวนไว้ที่ราวโดยรอบมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ ผมต้องทำการประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้น แต่การประชาสัมพันธ์ในที่นี้ คือ เน้นไปในเรื่องของคุณประโยชน์ของถุงผ้าหรือโทษของถุงพลาสติก เพื่อที่จะให้ทุกคนนั้นหันมาเปลี่ยนแปลงและเลิกใช้ถุงพลาสติก เพราะปัจจุบันทุกคนยังไม่เห็นคุณค่าของการใช้ถุงผ้าอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม วัยรุ่นส่วนใหญ่มีค่านิยมที่รักความสะดวกสบายจึงไม่มีใครสนใจที่จะใช้ถุงผ้า ต้องรอให้มันเกิดเรื่องเป็นรูปธรรมขึ้นจริง ๆ ทุกคนถึงจะเห็นคุณค่าของถุงผ้า ทางเรามีการวางแผนลงไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม เน้นย้ำให้ทุกคนเห็นถึงคุณค่าตรงนี้แล้วหันมาใช้ถุงผ้าให้มากขึ้น เพื่อรักษาโลกของเราและลดปริมาณขยะในกับสิ่งแวดล้อม” ประธานคณะกรรมการนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวทิ้งท้าย