โครงการ U Power Digital Idea Challenge Season 3 เวทีการประกวดแผนการตลาดดิจิทัล ระดับทีมอุดมศึกษา เพื่อค้นหาสุดยอดนักสร้างสรรค์แผนการตลาด ที่สามารถผนึก Digital Technology โดยจะมีโจทย์ในการแข่งขันจากหลากหลายบริษัทชั้นนำต่าง ๆ เพื่อให้นักศึกษา พัฒนาความคิดอย่างไรขีดจำกัด เกิดเป็นแผนธุรกิจที่ใช้ได้จริง พร้อมทดลองลงมือทำกิจกรรมจริง ชิงทุนการศึกษารวมกว่า 1,500,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรและถ้วยรางวัลจาก พลอากาศเอกประจิน จั่นทอง รองนายกรัฐมนตรี
นายเจษฏากร ดวงศิริ (หมิง) นายศรชัย พงชัยเจริญ (นัฐ) นายภาคภูมิ ควรคำนวณ (พีเค) นางสาวจุฑาทิพย์ ดิฐนันทกุล (หนูดี) และนายอรรถกร บุญมา (ไนซ์) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดแผนการตลาดโดยใช้สื่อดิจิตอ โครงการ U Power Digital Idea Challenge Season 3ครั้งนี้ ได้มีการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งจะสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมากกว่าการเรียนรู้แต่ในห้องเรียน ที่สำคัญเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีทีมีต่อแบรนด์ อีกทั้งเวทีนี้ยังต้องการสร้าง Brand Awareness และ Brand Engagement ผ่านการจัดกิจกรรมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย
นายภาคภูมิ ควรคำนวณ (พีเค) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เล่าว่า “รู้สึกดีใจมากครับที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ครั้งนี้ ทีมผมได้ทำแผนการตลาดสื่อดิจิทัลให้กับบริษัท COMMY ซึ่งจำหน่ายสินค้าจะมีตั้งแต่หัวชาร์จ สาชาร์จ สายยูเอสบี ที่ชาร์จแบตสำลอง หัวชาร์จที่เป็นสองหัว ฟิล์มกระจกกันรอย แต่ความโดดเด่นของสายชาร์จ หัวชาร์จต่างๆของคอมมี่จะอยู่ตรงที่รองรับนวัตกรรมชาร์จไวซึ่งต่างจากยี่ห้ออื่นๆ ทีมผมมีการช่วยในส่วนของสโลแกนเพราะทางบริษัทเพิ่งหันมาทำในเรื่องของการชาร์จไว ผมเลยคิดสโลแกนให้บริษัทว่า “ชาร์จด่วน ชาร์จไว เลือกใช้คอมมี่” โดยสอดคล้องกับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คุณภาพและราคาที่สามารถจับต้องได้ นอกจากนี้ผมได้นำวิชาหลักการตลาดที่เรียนในห้องเรียนมาใช้วิเคราะห์การแข่งขันครั้งนี้ค่อนข้างตรงมากกับการที่เราได้นำมาใช้ทำงานจริงๆ พวกเรานำข้อมูลที่ทางบริษัทให้มาไปปรึกษากันในทีมและวางแผนต้องทำอย่างไร”
นายเจษฏากร ดวงศิริ (หมิง) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า “ขอบคุณรางวัลในครั้งมากๆคับ ผมคิดว่าถ้ามองตามการประเมิน การให้คะแนนของคณะกรรมการในการแข่งขันครั้งนี้จะมีการให้คะแนน 4 ส่วน โดยส่วนตัวคิดว่าทีมผมสามารถตอบโจทย์ได้ทุกส่วน คือทีมเรานำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการ ต้องบอกเลยว่าเป็นทีมที่คณะกรรมการชมว่าเราทำได้ครบทุกอย่างซึ่งก่อนหน้านั้น 10 กว่าทีมที่มานำเสนอก่อนเราไม่มีใครสามารถทำตอบโจทย์ได้ทั้งหมด ผมคิดว่าการเตรียมความพร้อมทุกอย่างการฝึกซ้อม การเก็บรายละเอียดการทำงานเล็กๆ น้อยเราสามารถทำออกมาได้ดีตรงตามเป้าหมายที่กรรมการวางไว้ คะแนนในส่วนแรกที่เราได้มานั้นคือผลงานที่เราทำไว้นั้นมันสามารถเอาไปลงมือทำได้จริง เกิดขึ้นจริงมีผลรับที่ดีเกิดขึ้นตรงตามโจทย์ที่ตั้งไว้ ตามมาด้วยคะแนนในส่วนที่ 2 รูปแบบการนำเสนอคือโจทย์ตั้งไว้ว่าเราห้ามนำเสนอแบบในห้องเรียน ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในวันนำเสนอทีมผมเลยแต่งตัวคล้ายๆ ตัวละครในเกมพับจีเป็นชุดทหารมีปืน เพราะมันเชื่อมโยงกับแคมเปญออนกราวด์ที่เราจัดการแข่งขับเกมพับจีที่มหาวิทยาลัย อีกทั้งยังมีโชว์การแสดงระหว่างการนำเสนอและในส่วนท้ายเราก็มีการนำเสนอเป็นการร้องแร็ป ก็ได้รับคำชมว่าเรามีการนำเสนอที่เขาสามารถคิดตามได้เข้าใจในข้อมูลอย่างเป็นลำดับ ในส่วนที่ 3 คือการที่นำแผนการตลาดออนไลน์ไปต่อยอดทำได้จริง ในส่วนที่ 4 บริษัทจะสามารถนำแผนการตลาดของเราไปใช้จริงได้ไหม”
นายศรชัย พงชัยเจริญ (นัฐ) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า“ในทีมเราหลายคนที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างและเวลาทำอะไรจะค่อนข้างตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด เช่นงานนี้การทำคอนเทนต์หลักๆ เลยสิ่งที่ต้องมีความรู้อย่างหนึ่งคือการตัดต่อรูปภาพ ตัดต่อคลิปวิดีโอที่เราจะใช้โปรโมท เราก็ต้องทำเองทั้งหมดไม่ได้มีการจ้าง รวมถึงการหาพรีเซนเตอร์มันก็เป็นความรู้อีกรูปแบบหนึ่ง การถ่ายภาพ การเลือกภาพ รวมถึงการทำโฆษณาเราก็ต้องเขียนบทเอง กำกับเอง อีกทั้งวันที่จัดกิจกรรมออนกราวด์ ทีมเราก็ต้องเป็นพิธีการในการดำเนินรายการ การจัดงาน สุดท้ายตลอดการทำงานเราใช้เวลาค่อนข้างเยอะเพราะเวลาจะส่งผลงานเราต้องใช้วิดีโอความยาว 6-7 นาที เราก็ต้องนั่งทำโดยใช้ระยะเวลา 10-12 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง โดยที่เราก็ให้ความสำคัญจริงๆ อันนี้เลยเป็นจุดแข็งของทีมเรา ทุกคนมีความพยายามเหมือนกันหมดไม่มีใครทิ้งงานทำจนสุดความสามารถ ทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะทำโดยที่ไม่ได้คิดไว้ว่าจะได้รางวัลหรือเปล่าแต่ก็ขอทำอย่างเต็มที่ไว้ก่อน ถ้าใครพลาดก็มีคนช่วยเหลือกันได้ทันทีเสมอ”